วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554


Google Chrome OS


Google Chrome OS เป็นระบบปฎิบัติการ Open Source พัฒนาต่อยอดจาก Linux โดยวางหลักการทำงานโดยใช้เว็บบราวเซอร์ Google Chrome เป็นศูนย์กลาง มาพร้อมกับแอพพลิเคชั่นส่วนใหญ่ที่ทำงานผ่านเว็บด้วยเทคโนโลยี "Cloud" ซึ่งมีการประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลอยู่ภายนอกคอมพิวเตอร์ (การประมวลผลและจัดเก็บข้อมูลจะอยู่บนเซิฟเวอร์ในเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเป็นหลัก) ทำให้ผู้ใช้พีซีที่มีประสิทธิภาพการทำงานไม่สูงมากนักได้รับประสบการณ์ในการใช้คอมพิวเตอร์ที่ดี
Google Chrome OS จะพุ่งเป้าไปที่ตลาดผู้ใช้เน็ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์ขนาดเล็กที่มีประสิทธิภาพในการทำงานไม่สูงมากนัก แต่มีอัตราการเติบโตของตลาดเร็วมาก โดยล่าสุดมันอยู่ที่ประมาณ 1 ใน 4 ของการซื้อคอมพิวเตอร์ทั้งตลาด และระบุว่าเน็ตบุ๊ก (netbook) ทีทำงานด้วย Google Chrome OS จะใช้เวลาบู๊ตแค่ 7 วินาทีเท่านั้น เนื่องจากการทำงานส่วนใหญ่ของเน็ตบุ๊กจะถูกใช้ไปกับการออนไลน์ เพื่อสั่งรันแอพพลิเคชันต่างๆ จากภายนอก (อินเทอร์เน็ต) ที่น่าจะเป็นคำตอบของการใช้งานที่ถูกต้องมากกว่า พร้อมเสริมอีกด้วยว่า Google Chrome OS จะทำงานบนหน่วยบันทึกข้อมูลที่เป็น SSD (Solid State Storage) ไม่ใช่ฮาร์ดดิสก์ ในกรณีที่ขาดการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต หรือสัญญาณล่ม ผู้ใช้จะยังคงเรียกใช้แอพพลิเคชัน และข้อมูลที่ถูกอัพโหลดไว้ใน cloud เมื่อสามารถกลับมาเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อีกครั้ง
Google Chrome OS : ระบบปฏิบัติการของGoogle
สถาปัตยกรรมของ Chrome OS ประกอบไปด้วย
1.Firmware เป็นปัจจัยหลักที่ช่วยให้การบูตเครื่องทำได้เร็วและมีความปลอดภัยมากขึ้น  ซึ่งทางผู้พัฒนาได้นำส่วนประกอบที่ไม่จำเป็นออกไป เหลือเพียงแค่ firmware, kernel และ Chrome browser นอกจากนี้ยังเพิ่มส่วนของ system recovery ลงไปใน firmware  ที่จะช่วยให้สามารถ re-install Chromium OS ได้ในกรณีที่เครื่องหรือระบบถูกขัดจังหวะไปจากข้อผิดพลาดต่างๆ นอกจากนี้ ทุกครั้งที่ทำการ boot ระบบ Chrome OS จะทำการยืนยันโค้ดทุกอย่างที่จะรัน(verify code)ผ่านทางระบบยืนยันการ Certificateเพื่อให้แน่ใจว่า executed code ทั้งหมด มาจาก Chromium OS source tree จริงๆ ไม่ได้เป็นโค้ดที่มาจากผู้ไม่ประสงค์ดีที่ต้องการโจมตีระบบใส่ไว้ ทำให้ผู้ใช้เพิ่มความมั่นใจในด้านความปลอดภัยมากขึ้น
2.System-level software และ user-land software
3.Chromium browser และ window manager ซึ่ง Chrome browser ที่ใช้กับ Chrome OS จะใช้ HTML 5
สำหรับอุปกรณ์ที่รองรับระบบปฏิบัติการ Chrome OS นั้น ทาง Google ได้ร่วมมือกับบริษัท OEMsต่างๆ(คือ การรับจ้างผลิตสินค้าในตราผลิตภัณฑ์อื่น โดยมีการดูแลในเรื่องสินค้า คุณภาพ และบรรจุภัณฑ์ โดยทางลูกค้าเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดจำหน่าย ) อย่าง Acer,Adobe,Freescale,HP,Lenovo,Qualcomm,Texas Instruments และ Toshiba เพื่อหาแนวทางในการผลิต netbook ที่รองรับกับระบบปฏิบัติการ Chrome OS ซึ่งคาดว่าคงจะได้มีการผลิตออกสู่ตลาดราวๆกลางปี 2010 นี้ โดยทาง Google ให้เหตุผลที่จะต้องมีการออกแบบอุปกรณ์เฉพาะที่สามารถรองรับระบบปฏิบัติการ นี้ไว้ว่า เพื่อเพิ่มความเร็วและความปลอดภัยในการใช้งานมากขึ้น เพราะทั้ง software และ hardware ที่ออกแบบมาสามารถเข้ากันได้เป็นอย่างดีนั่นเอง
สำหรับ ข้อดีข้อเสียของระบบปฏิบัติการนี้ในความคิดเห็นของดิฉัน น่าจะมีดังนี้
ข้อดีของระบบปฏิบัติการ Chrome OS
1.สามารถบูตเครื่องได้เร็ว
2.มีความปลอดภัยสูง
3.สามารถรองรับได้ทั้ง x86 และ ARM
ข้อเสียของ Chrome OS คือ
1.Google ได้มีการทำความร่วมมือกับบริษัท OEMs ต่างๆเพื่อผลิตเครื่องคอมพิวเตอร์ที่รองรับ Chrome OS จึงมีความเป็นไปได้ว่า ในอนาคตอันใกล้ผู้บริโภคอาจจะต้องซื้ออุปกรณ์เฉพาะถ้าหากจะใช้ Chrome OS
2.ยังมีความไม่ชัดเจนในแง่ของการใช้งานแบบ offline เนื่องจากกูเกิ้ลประกาศออกมาอย่างชัดเจนว่าระบบปฏิบัติการนี้สร้างขึ้นมาสำหรับการใช้งานบนอินเตอร์เน็ต มีการคาดการณ์ว่าทางเลือกในการแก้ปัญหานี้คือ Google Gears ที่จะเป็นบริการเก็บข้อมูลไว้ในเครื่องเมื่อมีการใช้แอพพลิเคชั่นของ Google เพื่อให้สามารถใช้บริการต่างๆของ Google ได้เมื่อไม่สามารถเชื่อมต่อเครือข่ายได้
3.ไม่สามารถเลือกใช้บราวเซอร์อื่นได้ นอกจาก Chrome

วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Pipeline และ CPU

Pipeline และ CPU

โปรเซสเซอร์
ปี 1989 Intel ประกาศตัว 80486 ซึ่งเป็นซีพียูแบบ 32 บิต พร้อมเปิดตัวสิ่งที่เรียกว่า ไปป์ไลน์” (Pipeline)
ไปป์ไลน์ช่วยให้ซีพียูสามารถเฟ็ตช์คำสั่งเข้ามาทำงานได้หลาย ๆ คำสั่งในเวลาเดียวกันได้ โดยเอ็กซิคิวต์ในแต่ละคำสั่งในแต่ละสัญญาณนาฬิกา (Clock cycle) เรียกการทำงานแบบนี้ว่า สเกลลาร์” (Scalar)
ปี 1993 ได้เปิดตัวซีพียูในยุคที่ 5 ที่เรียกว่า “Pentium” โดยนำไปป์ไลน์มาใส่ไว้ในซีพียูถึง 2 ตัว ทำงานแบบขนานพร้อม ๆ กัน โดยไม่ขึ้นต่อกัน ทำให้สามารถเอ็กซิคิวต์ได้ 2 คำสั่งใน 1 สัญญาณนาฬิกา
เรียกสถาปัตยกรรมนี้ว่า ซุปเปอร์สเกลลาร์” (Superscalar)
องค์ประกอบของ cpu
(Pipeline)
ไปป์ไลน์ (Pipeline) คือการทำงานแบบคาบเกี่ยวกัน (overlap) โดยการแบ่งซีพียูออกเป็นส่วนย่อย ๆ แล้วแบ่งงานกันรับผิดชอบ
เดิมไปป์ไลน์เป็นเทคนิคของสถาปัตยกรรมแบบ RISC ต่อมานำมาใช้กับสถาปัตยกรรมแบบ CISC
แบ่งเป็นภาคหลัก ๆ คือ
ขั้นตอนการทำงานของ Pipeline
                ภาคเฟ็ตช์คำสั่ง หรือ Instruction Fetch ส่วนนี้จะทำหน้าที่รับคำสั่งใหม่ ๆ ทั้งจากหน่วยความจำหลัก หรือจาก Instruction Cache เข้ามา
                ภาคถอดรหัสคำสั่ง หรือ Instruction Decode ส่วนนี้จะทำหน้าที่แยกแยะคำสั่งต่าง ๆ ของ CISC
                ภาครับข้อมูล หรือ Get Operands  ส่วนนี้ทำหน้าที่รับข้อมูลที่จะใช้ในการเอ็กซิคิวต์เข้ามาเก็บไว้
                ภาคเอ็กซิคิวต์ หรือ Execute ส่วนนี้เป็นขั้นตอนที่ทำการเอ็กวิคิวต์ตามคำสั่งและโอเปอแรนด์ที่ได้รับมา
                ภาคเขียนผลลัพธ์ หรือ Write Result เมื่อทำการเอ็กซิคิวต์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะนำไปเก็บไว้ในรีจิสเตอร์ หรือในแคช
ภาพการทำงานของ (Pipeline) 

CPU
 
ขั้นตอนการทำงานของ CPU
ก่อนที่ CPU จะทำการประมวลผลข้อมูล คำสั่งและข้อมูลจะต้องถูกโหลดมาเก็บไว้ในหน่วยความจำหลักเสียก่อน 

การประมวลผลคำสั่งของ CPU
หลังจากคำสั่งและข้อมูลอยู่ในหน่วยความจำแล้ว CPU ก็จะทำการประมวลผลที่ละคำสั่ง ใน 4 ขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนการทำงานของ CPU ภาพแสดงขั้นตอนการทำงานของ CPU

จากโปรแกรมที่ประกอบด้วยกลุ่มของคำสั่งที่ต้องการให้คอมพิวเตอร์ทำการประมวลผล แต่ละคำสั่งประกอบด้วย รหัสให้ทำงาน ( OperationCode)
หรือ ออปโค้ด (Opcode) เช่น ADD (การบวก) SUB (การลบ)MUL (การคูณ) DIV (การหาร) และสิ่งที่เรียกว่า โอเปอแรนต์ (Operand)
ซึ่งจะบอกตำแหน่งของที่เก็บข้อมูลในหน่วยความจำ เช่น สัญลักษณ์ Aหรือ B
ตัวอย่างของคำสั่งหนึ่งๆ ที่มีอยู่ในโปรแกรมภาษาแอสแซมบลี เช่น ADD A,B หมายถึงให้มีการนำข้อมูลที่เก็บอยู่ในหน่วยความจำที่ตำแหน่ง A และข้อมูลที่เก็บอยู่ในหน่วยความจำที่ตำแหน่ง B มาทำการบวกกัน ซึ่งคำสั่งนี้จะต้องถูกแปลให้เป็นภาษาเครื่อง (MachineLanguage) ก่อนการปฏิบัติงานของซีพียูเสมอ

ขั้นตอนการทำงานของ CPU และความสัมพันธ์ในการใช้ Resistor
ขั้นตอนการประมวลผลของ CPU
การเฟตช์ (Fetch) เป็นกระบวนการที่หน่วยควบคุม (CU) ไปนำคำสั่งที่ต้องการใช้จากหน่วยความจำมาเพื่อการประมวลผลมาเก็บไว้ที่ Register
การแปลความหมาย ( Decode ) เป็นกระบวนการถอดรหัสหรือแปลความหมายคำสั่งต่างๆ เพื่อส่งไปยังหน่วยคำนวณและตรรกะเพื่อดำเนินการต่อไป
การเอ็กซ์คิวต์ ( Execute ) เป็นกระบวนประมวลผลคำสั่งโดยหน่วยคำนวณและตรรกะ ซึ่งการประมวลผลจะประมวลผลทีละคำสั่ง
การจัดเก็บ ( Store ) เป็นกระบวนการจัดเก็บผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลและจัดเก็บไว้ในหน่วยความจำหรือรีจิสเตอร์
วัฏจักรการทำงานของซีพียู หรือวัฏจักรเครื่อง (Machine Cycle)
Machine Cycle & การประมวลผลคำสั่งโปรแกรม 

การประมวลผลคำสั่งโปรแกรมระดับเครื่อง (ภาษาเครื่อง) หนึ่งคำสั่ง เกิดขึ้นในระหว่างหนึ่ง Machine Cycle :-
วัฏจักรคำสั่ง Instruction Cycle (I-cycle) l fetch instruction - control unit รับคำสั่งจากแรม l decode instruction - control unit แปลความหมายคำสั่งโปรแกรม และเก็บส่วนที่เป็น คำสั่ง ของคำสั่งโปรแกรมไว้ใน Instruction Register & เก็บส่วนที่เป็นแอดเดรส ของคำสั่งโปรแกรมไว้ใน Address Register
เวลาที่ใช้ในการแปลคำสั่ง (Instruction Time)
เวลาทั้งหมดในการประมวลผลแต่ละคำสั่ง ประกอบด้วย 2 ส่วนคือ
การแปลคำสั่ง (fetch and decode) และการประมวลผลคำสั่ง(execute and store)
เวลาที่ใช้แปลคำสั่งเรียกว่า instruction time
เวลาที่ใช้ในการประมวลผล เรียกว่า E xecution time
 เวลาที่ใช้ประมวลผลแต่ละคำสั่ง (Machine Cycle)
The combination of I-time and E-time is called the machine cycle
หน่วยวัดความเร็วของซีพียู 
เมกะเฮิรตซ์ ( Megahertz: MHz ) เป็นหน่วยวัดความเร็วของซีพียูในไมโครคอมพิวเตอร์
หรือ
Clock Speed
ที่มีความเร็วหนึ่งล้านวัฏจักรเครื่องต่อวินาที
(
Millions machine cycle per second )
มิปส์ ( Million of
Instructions Per Second: MIPS )
เป็นหน่วยวัดความเร็วของซีพียูของคอมพิวเตอร์ขนาดกลางขึ้นไปโดย1 MIPS จะสามารถประมวลผลได้หนึ่งล้านคำสั่งต่อวินาที ( Million
of Instructions Per Second: MIPS )
ฟลอปส์ ( Floating Point Operations Per Second: FLOPS ) เป็นหน่วยวัดความเร็วของซีพียูในซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ซึ่งมักวัดความสามารถในการปฏิบัติการคำนวณทางคณิตศาสตร์แบบทศนิยมหรือFloating Point
               รูปแบบการประมวลผลของซีพียู
1. การประมวลผลแบบเดี่ยว ( Single
processing) หรือ Sequential Processing
เป็นการประมวลผลข้อมูลตามลำดับ
เนื่องจากมีซีพียูทำงานเพียงตัวเดียว ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ การประมวลผลข้อมูลล่าช้า
2. การประมวลผลแบบขนาน (
Parallel processing) เป็นการใช้ซีพียูมากกว่า 1 ตัว ( Multiple Processors )
ในการประมวลผลงานๆ
หนึ่งพร้อมกัน โดยซีพียูจะแตก (
break down)
ปัญหาออกเป็นส่วนย่อยๆ
เพื่อแบ่งให้ซีพียูแต่ละตัวประมวลผล ซึ่งสามารถเปรียบเทียบได้กับการประมวลผลแบบซีพียูเดียว
และ หลายซีพียูได้ดังภาพ
 

The Best websile

The Best website

เว็บไซต์ของคนไทย
 เป็นเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ ด้านในเว็บไซต์จะมีทั้งข่าวที่เกี่ยวกับข่าวกีฬา ข่าววาไรตี้ ข่าวอสังริมทรัพย์ ข่าวนิติวิทย์ ข่าวบันเทิง ข่าวสาธารณสุข หรือจะเป็นเกี่ยวกับพระเครื่อง เป็นต้น
 เป็นเว็บไซต์ด้านวาไรตี้ นานาสาระทั้งข่าวและบันเทิง อีกทั้งยังมีให้ฟัง วิทยุ เพลง สามารถดูคลิปวิดีโอ มิวสิควิดีโด หรือภาพยนตร์ และสามารถเล่นเกมส์ก็ยังได้ด้วย
 เป็นสื่อกลางในการค้นหาข้อมูลของผู้ซื้อและผู้ขาย โดยแยกเป็นหมวดหมู่
 เป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในเขตกรุงเทพ ฯ ข่าวสาร แผนที่กรุงเทพ ฯ  รวมท่องเที่ยวของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารของไทยด้วย ซึ่งสามารถจองที่พักก็ได้
เป็นเว็บไซต์ที่ให้คนไทยได้ไปโพสต์ทั้งข้อความ รูปภาพ และยังสามารถโพสต์อีเมลเพื่อหาเพื่อน ได้ด้วย ด้านในก็ยังมีเกมส์ให้เล่น ดูวิดีโอ ดูหนัง ดูทีวี ฟังเพลง และมากมาย เป็นต้น
 
 
เว็บไซต์ของต่างประเทศwww.starwars.com
เป็นภาพยนตร์ที่มาแรงและเป็นที่สนใจของคนจำนวนมาก โดยถูกนำกลับมาสร้างใหม่อีกครั้ง โดย มีตอนใหม่เต็ม ๆ ว่า
starwars : Episode I – The Phantom Mena
http://www.techweb.com/
เป็นเว็บที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับไอทีและวิวัฒนาการใหม่ ๆ ต่าง ๆ คุณจะได้พบกับข่าวสารของโลกคอมพิวเตอร์ที่ทันต่อเหตุการณ์ การใช้เทคโนโลยีในระบบฐานข้อมูลต่าง ๆ บทความต่าง ๆ เกี่ยวกับแวดวงอินเตอร์เน็ต

http://www.webopaedia.com
เป็นเว็บเอ็นไซโคพีเดียและเสิร์ชเอ็นจินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่ง คุณสามารถค้นหาข้อมูลได้โดยใช้คีย์เวิร์ดหรือไประเภท ไซต์นี้ได้แบ่งหัวข้อต่าง ๆ ไว้ 15
หัวเรื่อง โดยคุณสามารถให้ทางไชต์ส่งข้อมูลอัพเดตมาที่คุณได้

http://www.whatis.com
เว็บนี้เป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ มีเอ็นไซโคพีเดีย คำจำกัดความ/หัวข้อเรื่อง และเพจสำหรับอ้างอิงรวดเร็วมากกว่า 2,000 เพจ เว็บนี้มีหัวข้อเรื่องต่าง ๆ ที่ลิงก์ไปยังอ้างอิงของคำจำกัดความและหัวเรื่องอื่น ๆ มากกว่า 10,000
ลิงก์ และยังมีลิงก์ไปยังไซต์อื่น เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมอีกด้วย คุณจะชอบส่วนพิเศษของเว็บนี้
http://www.airborne.com
เว็บไซต์ Airborne Express นี้ให้คุณสามารถส่งสินค้า ผลิตภัณฑ์หรือสิ่งของไปยังที่ใดก็ได้ในสหรัฐอเมริกา ที่เว็บไซต์นี้มีส่วน FAQ ที่ช่วยอธิบายวิธีในการเปิดแอ็กเคานต์ตรวจสอบค่าใช้จ่ายในการส่งและใบส่งของ นอกจากนั้นยังมีข้อมูลพิเศษสำหรับคำถามประเภท how-to
ดังเช่นของชิ้นนั้นจะถูกส่งไปถึงหรือยังเป็นต้น